วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

การเข้าหัวLAN

สาย UTP คืออะไร เข้าหัว RJ45 ต้องเรียงสีอย่างไร
เดี๋ยวนี้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น ใครมีลูกหลานก็คงจะเห็นชัดว่าเขาเหล่านั้นมักจะมีความสนใจในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทั้งที่การเริ่มต้นอาจจะมาจากการเล่นเกมส์ก็ตาม เมื่อเขามีความสนใจก็คงต้องส่งเสริมกันล่ะครับ

ต่อมาวิวัฒนาการมากขึ้น การเชื่อมต่อกับโลกภายนอกก็ตามมาถึงในบ้าน ครั้นจะซื้อทุกอย่าง พ่อแม่ก็คงเห็นว่าไม่ค่อยจะมีพัฒนาการในการแก้ไขปัญหา ก็เลยมาถามว่าทำไงให้เด็ก ๆ เหล่านั้นมีความสนใจเรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง คำตอบจากพ่อแม่เด็กครับ "ไม่รู้เหมือนกัน" ...วันนี้ก็เลยเอาเรื่องสายเน็ตเวิร์ก หรืออาจจะได้ยินคนเรียกว่าสาย UTP (Unshielded Twisted Pair) มาเล่าสู่กันฟังครับ

ปัจจุบันสายเน็ตเวอร์กที่นิยมใช้เดินในอาคาร ก็คือสาย UTP หรืออาจจะเรียกว่า 10BaseT หรืออาจได้ยินว่าสาย CAT5 ซึ่งสาย CAT5 จะสามารถรองรับการสื่อสารข้อมูลได้ถึง 100 เมกกะบิตต่อวินาที (100 megabit per second)

สาย CAT5 จะเป็นสายที่มีตีเกลียวกัน 4 คู่ (รวมแล้วมีทั้งหมด 8 เส้น) เราถึงได้เรียกว่า Unshielded Twisted Pair (UTP)

รหัสสีของสาย CAT5 ทั้ง 4 คู่ จะใช้ตามค่ามาตรฐานของ Electronic Industry Association/Telecommunications Industry Association's Standard 568B ดังตาราง

สายคู่ที่ 1
ขาว/น้ำเงิน
น้ำเงิน


สายคู่ที่ 2
บาว/ส้ม
ส้ม
สายคู่ที่ 3
ขาว/เขียว
เขียว

สายคู่ที่ 4
ขาว/น้ำตาล
น้ำตาล

หัวต่อ (Connectors)

หัวต่อสาย CAT5 UTP เราจะเรียกกันติดปากว่า หัว RJ45 (RJ ย่อมาจาก Registered Jack)

ในมาตรฐานของ IEEE กำหนดให้ Ethernet 10BaseT ต้องมีสายตีเกลียวเป็นคู่ ๆ และคู่ที่หนึ่งจะเชื่อมต่อเข้ากับขา 1 และ 2 , และ คู่ที่สองจะต่อเข้ากับขา 3 และ 6 ส่วนขา 4 และ 5 จะข้ามไม่ใช้งาน


การเชื่อมต่อสายตามมาตรฐาน EIA/TIA-568B RJ-45 :

ในการใช้งานจะใช้แค่ 2 คู่ในการรับส่งข้อมูลตามมาตรฐาน 10BaseT โดยใช้คู่ที่ 2 (ขาว/สัม , ส้ม) และคู่ที่ 3 (ขาว/เขียว , เขียว)

คู่ที่ 2ต่อเข้ากับขา 1 และ2ดังนี้:
ขา 1 ใช้สี ขาว/ส้ม
ขา2 ใช้สี ส้ม
คู่ที่3ต่อเข้ากับขา3 และ6ดังนี้:
ขา3 ใช้สี ขาว/ส้ม
ขา6 ใช้สี ส้ม




ส่วนสองคู่ที่เหลือให้ต่อดังนี้ครับ



คู่ที่ 1
ขา4 ใช้สี น้ำเงิน
ขา5 ใช้สี ขาว/น้ำเงิน
คู่ที่ 4
ขา7 ใช้สี ขาว/น้ำตาล
ขา8 ใช้สี น้ำตาล


การเรียงสีให้ดูตามรูปก็ได้ครับ



เมื่อจัดสีให้ตรงตามแบบแล้วก็ทำการตัดให้ปลายเท่ากันแล้วใส่สายเข้าไปในหัว RJ45




โดยให้ปลายของสายแต่ละเส้นไปชนกับด้านบนสุดของหัว RJ45 เมื่อชนสุดแล้วใช้คีมสำหรับเข้าหัว RJ45 บีบให้แน่น จากนั้นให้ทำเหมือนกันทั้งสองด้าน








--------------------------------------------------------------------------------



สายไข้ว (Crossover Cables)

ในการเข้าสายแบบพิเศษ หรือที่เรียกกันว่า สายไขว้ (Crossover Cable) จะมีการเปลี่ยนตำแหน่งของปลายสายด้านหนึ่งของสายเคเบิล ซึ่งจะสลับกันจาก ขา 1&2 ไปเป็นขา 3&6 และจากขา 3&6 ไปเป็นขา 1&2 ส่วนขา 4&5 และ 7&8 ไม่เปลี่ยนแปลง




เพื่อให้เข้าใจจะมีการต่อสายทั้งสองด้านดังนี้ครับ:
ปลายด้านปกติ (Standard) ปลายด้านไขว้ (Crossover) ขา 1 ขาว/ส้ม ขา 1 ขาว/เขียว ขา 2 ส้ม ขา 2 เขียว ขา 3 ขาว/เขียว ขา 3 ขาว/ส้ม ขา 4 น้ำเงิน ขา 4 น้ำเงิน ขา 5 ขาว/น้ำเงิน ขา 5 ขาว/น้ำเงิน ขา 6 เขียว ขา 6 ส้ม ขา 7 ขาว/น้ำตาล ขา 7 ขาว/น้ำตาล ขา 8 น้ำตาล ขา 8 น้ำตาล
ข้อมูลในตารางจะใช้สำหรับปลายด้านที่เป็นสายไขว้ (Crossover End)



คู่ที่ 2ต่อเข้ากับขา 1 และ2ดังนี้:
ขา1 ใช้สี ขาว/เขียว
ขา2 ใช้สี เขียว
คู่ที่ 2ต่อเข้ากับขา3 และ6ดังนี้:
ขา3 ใช้สี ขาว/ส้ม
ขา6 ใช้สี ส้ม



ภาพที่แสดงจะเป็นการเรียงสีของสายที่จะทำเป็นปลายสายไขว้




เมื่อสอดปลายของสายแต่ละเส้นไปชนกับด้านบนสุดของหัว RJ45 จากนั้นก็ใช้คีมสำหรับเข้าหัว RJ45 บีบให้แน่น
วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

การต่อหัวLAN

UTP Cable หรือที่บ้านเราเรียกกันว่าสาย LAN แล้วก็หัว RJ-45 (Male), Modular Plug boots หรือตัวครอบสาย หากว่ามี Wry Marker แล้วก็จะมีเหมือนกันเพราะว่าจะช่วยในการทำให้เราจำสายสัญาณได้ว่าปลายด้านไหนเป็นด้านไหน ซึ่งโดยส่วนมากแล้วก็จะเป็นหมายเลข ไว้ใส่ในส่วนปลายทั้งสองด้านเพื่อให้ง่ายในการตรวจสอบระบบสายสัญญาณ คีมแค้มสายสัญญาณ หรือ Crimping Tool, มีดปอกสาย หรือ Cutter เอาละมาว่ากันเลยดีกว่าก่อนอื่นก็หยิบมีดหรือ Cutter อันเล็ก ๆ มาอันหนึ่งแล้วก็เล็งไปที่นิ้วจากนั้นก็ตัดนิ้วทิ้งไปซะ แล้วค่อยเอาหัว RJ มาต่อกับนิ้วแทน เท่านี้คุณก็สามารถเชื่อมต่อตัวคุณเองเข้าสู่ระบบเครือข่ายด้วยความไวสูงสุดถึง 100 มิลลิลิตรต่อนาที บางทีอาจจะเป็น Full Duplex Mode อีกต่างหาก ล้อเล่น ๆ เอาละนะใช้มีดปอกสายสัญญาณที่เป็นฉนวนหุ้มด้านนอกออกให้เหลือแต่สายบิดเกลียวที่อยู่ด้านใน 8 เส้นแล้วก็จะเห็นด้ายสีขาว ๆ อยู่ให้ตัดทิ้งได้โดยการปอกสายสัญญาณนั้นให้ปอกออกไว้ยาว ๆ หน่อยก็ได้ประมาณสัก 1 เซ็นครึ่งก็น่าจะได้นะตามตัวอย่างดังรูปข้างล่างนี
การทำสายสัญญาณ เพื่อใช้เองในบ้านหรือในสำนักงานขนาดเล็กก็ได้วิธีการก็ไม่มีอะไรมากอย่างแรกเลยก็จัดเตรียมเรื่องของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะต้องใช้ให้ครบถ้วนก่อนจะได้ไม่ต้องวิ่งหาตอนติดตั้ง โดยอุปกรณ์โดยทั่วไปก็มีสายสัญญาณหรือ

จากนั้นก็ให้ใส่ Modular Plug boots เข้ากับสาย UTP ด้านที่กำลังจะต่อกับหัว RJ-45 ไว้ก่อนเลยดังรูปข้างล่างนี้
รูปแสดงคีมหรือ
รู
รูปของคีมหรือ


หลังจากที่ปอกสายเสร็จแล้วก็ให้ทำการแยกสายทั้ง
ขาวส้ม
ซึ่งสีที่ไล่นี้เป็นสีที่ใช้เป็นมาตรฐานในการเชื่อมต่อ ซึ่งจริง ๆ แล้วการเข้าสายมีมาตรฐานการไล่สีอยู่หลัก ๆ ก็
หลังจากนั้นให้ใช้คีมตัดสายสัญญาณที่เรียงกันอยู่นี้ให้มีระบบปลายสายที่เท่ากันทุกเส้น โดยให้เหลือปลายสายยาวออกมาพอสมควร จากนั้นก็ให้เสียบเข้าไปในหัว RJ-45 ที่เตรียมมา โดยให้หันหัว RJ-45 ดังรูปจากนั้นค่อย ๆ ยัดสายที่ตัดแล้วเข้าไป โดยพยายามยัดปลายของสาย UTP เข้าไปให้สุดจนชนปลายของช่องว่าในหัว RJ-45 เลย
จุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเชื่อมต่อสายสัญญาณในช่วงนี้ก็คือต้องยัดฉนวนหุ้มที่หุ้มสาย
UTP นี้เข้าไปในหัว RJ-45 ด้วย โดยพยายามยัดเข้าไปให้ได้ลึกที่สุดแล้วกัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการหักงอของสายง่าย โดยให้ยัดเข้าไปให้ได้ดังรูปข้างล่างนี้


แล้วก็นำเข้าไปใส่ในช่องที่เป็นช่องแค้มหัวของ RJ-45 ในคีมที่จะใช้แค้มหัว หรือ Crimping Tool ให้ลงล็อกของคีมพอดีจากนั้นก็ให้ทำการกดย้ำสายให้แน่น เพื่อให้ Pin ทีอยู่ในหัว RJ-45 นั้นสัมผัสกับสายทองแดงที่ใส่เข้าไป บรรจงนิดหนึ่งนะครับในช่วงนี้ เพราะว่าเป็นช่วงหัวเลียวหัวต่อของชีวิตสายสัญญาณของคุณเลยแหละ เท่าที่ประสบการในการเข้าสายสัญญาณของผม ถ้าเป็นไอ้เจ้า Amp นี่ก็ไม่ต้องออกแรงมากเท่าไหร่ก็ OK ได้เลย แต่ถ้าเป็นแบบของทั่ว ๆ ไปก็คงต้องออกแรงกดกันนิดหนึ่งแล้วกัน
อ้า...ท้ายที่สุดก็จะได้ปลายสัญญาณของระบบที่คุณต้องการดังกล่าวดังรูป ที่นี้ก็ไปทำอย่างที่ว่ามานี้อีกครั้งหนึ่งที่ปลายสายอีกด้านหนึ่ง แต่อย่าหลงเข้าใจผิดว่านี่เป็นสาย Cross นะ เพราะว่าสาย Cross นั้นคุณต้องทำการสลับสายสัญญาณที่เข้านี้ ลองไปดูหัวข้อ Tip of the Day นะผมแนะนำการเข้าสาย Cross ไว้ที่นั่นแล้ว เพราะว่าการเข้าสายทั้งสองแบบนี้การไล่สีของสายไม่เหมือนกัน แตกต่างกันนิดหน่อย ส่วนสาย Cross เราสามารถนำเอาไปเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องให้เป็นระบบเครือข่ายได้โดยที่ไม่ต้องใช้ HUB ได้เลย แต่ได้แค่ 2 เครื่องเท่านั้น ส่วนสายแบบที่ต่อตรง ๆ นั้นจะใช้เชื่อมต่อจากเครื่องคอมพิวเตอร์มายัง HUB

4 คู่ที่บิดกันอยู่ออกเป็นคู่ ๆ ก่อนโดยที่ให้แยกคู่ต่าง ๆ ตามลำดับต่อไปนี้ ส้ม-ขาวส้ม ---> เขียว-ขาวเขียว ---> น้ำเงิน-ขาวน้ำเงิน ---> น้ำตาล-ขาวน้ำตาล เพื่อแบ่งสายออกเป็นหมวดหมู่ใหญ่ ๆ ก่อน จากนั้นจึงค่อยมาทำการแยกแต่ละคู่ออกมาเป็นเส้น โดยให้ไล่สีดังนี้ ---> ส้ม ---> ขาวเขียว ---> น้ำเงิน ---> ขาวน้ำเงิน ---> เขียว ---> ขาวน้ำตาล ---> น้ำตาล 2 แบบแต่ในที่นี้ผมเอาแบบนี้แล้วกันเพราะว่าส่วนมากแล้วเขาจะใช้วิธีการไล่สีแบบนี้ หลังจากจัดเรียงสีต่าง ๆ ได้แล้วก็ให้จัดสายให้เป็นระเบียบ ให้พยายามจัดให้สายแต่ละเส้นชิด ๆ กัน ดังรูป
Crimping Tool ด้านหน้าที่จะใช้แค้มสา
Crimping Tool ที่จะใช้ในการแค้มหัว อันนี้เป็นของยี่ห้อ Amp ราคาในตลาดก็คงประมาณ 5,000-6,000 บาทมั้งแต่ถ้าไม่ได้ใช้เยอะก็แนะนำให้เดินซื้อแถวพันทิพย์ หรือ ศูนย์คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ทุกมุมในปัจจุบันนี้ ถ้าเอาแบบพอใช้ได้ราคาก็ประมาณ 400-800 บาท คุณภาพก็พอใช้ได้นะ ผมก็เคยซื้อมาใช้หลายอันแล้ว แต่ของ Amp นี้ค่อนข้างน่าใช้และชัวร์กว่าเยอะในการเข้าสาย แต่ราคานี่สิผมว่ามันไม่ค่อยจะน่าสนเท่าไหร่ถ้าเราไม่มีอาชีพในการทำงานด้านนี้เฉพาะหรือ ต้องมีการเดินระบบสายสัญญาณบ่อย ๆ

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เเบบฝึกหัดที่ 2

แบบฝึกหัดหน่วยที่2

1. ข้อใดคืออุปกรณ์ด้านอินพุทยูนิต
ตอบ เครื่องพิมพ์

2. หน่วยประมวลผลข้อมูลกลางคืออะไร
ตอบ ซีพียู

3.ข้อไดไม่ใช่อุปกรณ์ต่อพ่วง
ตอบ เมนบอร์ด

4. เครื่องพิมพ์ที่ใช้หลักการฉีดพ่นหมึกคือข้อได
ตอบ อิงค์เจต

5. การที่ให้ปากกาเคลื่อนที่ไปมาบนเเกนโลหะเพื่อวาดภาพลงบนกระดาษเป็นหลักการของอุปกรณ์ชนิดได
ตอบ Flatbed Plotter

6. อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่อ่านรหัสข้อมูลที่ติดบนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ คืออุปกร์ได
ตอบ BaCode Reader

7. หน่วยความจำภายในกล้องดิจิตอลสามารถเก็บภาพได้ประมาณกี่ภาพ
ตอบ 30 ภาพ

8. ข้อไดไม่ใช่สื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล
ตอบ รอม

9. สื่อบันทึกข้อมูลที่มีความจุมากกว่า 4.7 GB คือข้อได
ตอบ ฮาร์ดดิส

10. ข้อได้คือคุณสมบัติของเเฮนดี้ไดร์ฟ
ตอบ พกพาสะดวกจุข้อมูลมาก

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เเบบฝึกหัดท้ายบท

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554
แบบฝึกหัดบทที่1
1. ในการตั้งปัญหา ทางวิทยาศาสตร์ต้องยึดอะไรเป็นหลัก ก.
 2. “ไก่ตัวนี้มีขนสีแดงครึ่งตัวข้อมูลนี้ได้มาจากวิธีใด ค. การสังเกต ง. การวัดและคำนวณ
ก. ปัญหา ข. สมมติฐาน
 3. การสังเกตของนักวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดสิ่งใดเป็นอันดับแรก ข. ปัญหา ค. สรุป ง. สมมติฐาน
ก. กฎ
 4. ถ้าผลการทดลองขัดแย้งกับสมมติฐานอย่างแน่นอนจะต้องทำอย่างไร ขแก้ไขสมมติฐาน คเปลี่ยนข้อมูล ง. ค้นคว้าเพิ่มเติม 5. คำตอบของปัญหาที่ยังมิได้มีการค้นคว้า พิสูจน์เรียกว่าอะไร ก
 6. ข้อความต่อไปนี้ข้อใดเป็นข้อมูลที่เกิดจากการสังเกตที่ดี งเค้กชิ้นนี้มีรสหวาน เนื้อนุ่ม มีกลิ่นหอม
ก. หมาเป็นสัตว์บก ข. พริกไทยชอบอากาศร้อน
ค. ขนมปังที่ขึ้นราจะมีจุดสีดำๆ
 
7. การสังเกตสิ่งใดจำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วยจึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง งถูกทุกข้อ
ก. การเต้นของหัวใจ ข. โครงสร้างภายในลำต้น
ค. อุณหภูมิของอากาศ
 8. สมมติฐานทางวิทยาศาสตร์จะเปลี่ยนเป็นทฤษฏีเมื่อไร ก
ค. อธิบายได้กว้างขวาง ง. มีเครื่องมือพิสูจน์
. ทดสอบแล้วเป็นจริงทุกครั้ง ข. เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป 9. ในการพิสูจน์สมมติฐาน ทำอย่างไร ขทดลอง ค. ตั้งปัญหา ง. สรุปผล
ก. สังเกต
 10. ข้อมูลจากการสังเกตด้วยตาเปล่า จะผิดพลาดกรณีใด งถูกทุกข้อ
ก. วัตถุนั้นเคลื่อนไหว ข. วัตถุนั้นถูกบังเป็นบางส่วน
ค. อยู่ใกล้วัตถุที่ลักษณะต่างกน
11. เครื่องมือใดใช้ขยายขอบเขตประสาททางหู pH มิเตอร์ ค
 12. คนสายตาสั้น ต้องใช้เลนส์แว่นตาชนิดใด ข. เลนส์เว้า ค. เลนส์รวม ง. เลนส์ปกติ
ก. เลนส์นูน
 13. เครื่องมือศึกษาพื้นผิวของดวงจันทร์ คืออะไร ค
 14. เทอร์มอมิเตอร์วัดไข้ต่างจากเทอร์มิเตอร์แบบธรรมดาอย่างใด ข. รูปร่างของหลอดแก้ว
ก. มาตรส่วนอุณหภูมิ . กล้องโทรทรรศน์ ง. กล้องถ่ายภาพยนตร์
ก. กล้องถ่ายวีดีโอ ข. กล้องจุลทรรศน์ . สเต็ทโทสโคป ง. เอียร์โฟน
ก. เทอร์มอมิเตอร์ ข. . สมมติฐาน ข. ข้อเท็จจริง ค. ปัญหาใหม่ ง. บทสรุป
ก. ทอลองซ้ำ
ข้อมูล ข. ทฤษฏี ค. สมมติฐาน ง. แนวปฏิบัติ

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ นาย ธัญญารัตน์   สินสุข  เลขที่ 20 ปวช.1
สาขา คอมพิวเตอร์
เกิดวันที่ 16 / พ.ค / 39
บ้านเลขที่ 63/2 ม.4 ต.ท่าทราย อ.เมือง นนทบุรี 11000   














ปัจจุบัน เรียน ที่ PSC